เกมตะลุยดันเจียนที่ดีที่สุด
คำเตือน: เกมดังต่อไปนี้อาจเป็นเกมที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ชมอายุน้อย โปรดใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบเรตเกมที่จัดโดยคณะกรรมการจัดเรตสื่อซอฟต์แวร์บันเทิง (ESRB) ก่อนที่จะอนุญาตให้เด็กเล่น โดยเฉพาะเกมที่จัดอยู่ในเรต M ซึ่งหมายถึงเกมสำหรับผู้ใหญ่ วิดีโอเกมเรต M อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับเด็กและ/หรืออาจมีเนื้อหาที่ไม่มีเรตกำกับ ซึ่งอาจมีภาพและเสียงที่รุนแรงสำหรับผู้ชมอายุน้อย

เกมตะลุยดันเจียน (Dungeon Crawler) สุดคลาสสิกต่างดึงดูดความสนใจเหล่าผู้เล่นแบบไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟรนไชส์และเกมแนวนี้ให้เป็นที่รักของทุกคนอย่างต่อเนื่อง เกมแนวนี้ทำให้คุณหลงไหลไปกับเควสต์ต่อสู้แย่งชิงไอเทมหรือสำรวจโลกได้อย่างไม่รู้จบ ด้วยสภาพแวดล้อมหลากหลาย ชุมชนเกมขนาดใหญ่ที่ต่างมีส่วนร่วม และแนวทางการเล่นเกมที่ไม่ซ้ำกัน เกมตะลุยดันเจียนจึงมีความลงตัวที่เป็นเอกลักษณ์

รายชื่อเกมตะลุยดันเจียนนี้จะมี 10 อันดับเกมที่น่าจับตามองในปี 2022 โดยผสมผสานกลิ่นอายของความคลาสสิกเข้ากับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพไม่แพ้เกมเก่า อาจมีรายชื่อเกมในตำนานที่คุณคุ้นหู เกมที่มอบการสนับสนุนและสร้างชุมชนที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้เล่นจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังมีเกมหน้าใหม่และเกมครอสโอเวอร์ที่สร้างขึ้นจากเกมยอดนิยมต่าง ๆ ที่มีสไตล์การเล่นแบบเฉพาะ

วันนี้ เกมที่เราจะพูดถึงกันคือ (ไม่ได้เรียงลำดับอะไรเป็นพิเศษ)

  1. Minecraft Dungeons
  2. Last Epoch
  3. Children of Morta
  4. UnderMine
  5. Darksiders Genesis
  6. Torchlight 2
  7. Moonlighter
  8. Slay The Spire
  9. Binding of Isaac
  10. Diablo 3

1. Minecraft Dungeons

ผู้พัฒนาเกม: Mojang | วางจำหน่ายเมื่อ 26 พฤษภาคม 2020

เกมแรกของเราคือ Minecraft Dungeons เป็นเกมต่อยอดใหม่จากบริษัทพัฒนาเกม Mojang ผู้สร้างจักรวาลเกมรูปทรงสี่เหลี่ยมสุดเก๋อย่าง Minecraft ซึ่งเป็นเกมที่เน้นการสร้างสิ่งต่าง ๆ โดยมีรูปแบบฟิสิกส์และรายละเอียดพื้นผิวเกมที่แสนเรียบง่าย เพื่อให้เกมมีจักรวาลอันกว้างขวางและสร้างขึ้นตามกระบวนการเพื่อให้ผู้เล่นได้สำรวจและเพลิดเพลิน

Minecraft Dungeons สร้างระบบการเล่นและเนื้อหาเกมที่คล้ายกับเกมต้นฉบับและนำไปปรับใช้ให้เข้ากับเกมตะลุยดันเจียนสุดคลาสสิก นอกเหนือจากการสร้างและคราฟต์สิ่งต่าง ๆ Minecraft Dungeons ยังพัฒนาองค์ประกอบเกมสำหรับการผจญภัยครั้งใหม่สุดมันส์ไม่ซ้ำใคร เว็บบล็อกของผู้พัฒนากล่าวไว้ว่า ผู้เล่นจะต้องเอาชนะ “Arch Illager ที่แสนชั่วร้ายและเหล่ากองทัพลูกสมุนสุดป่วนของมัน"

รายละเอียดเกี่ยวกับเกมเพลย์และกลไกของเกมยังคงมีให้ติดตามเรื่อยๆ มีโหมดเกมเพลย์ที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นคนเดียว เล่นกับเพื่อนในเครือข่ายเดียวกันสี่คน และออนไลน์กับคนอื่น ๆ นอกจากเวอร์ชันมาตรฐานแล้ว เกมนี้ยังมี "Hero Edition" ที่ให้คุณสามารถตกแต่งตัวละครหรือสวมคอสตูม และมี DLC ให้เลือกตามต้องการ

2. Last Epoch

ผู้พัฒนาเกม: Eleventh Hour Games | วางจำหน่ายเมื่อ 30 เมษายน 2019 (โอเพ่นเบต้า)

Last Epoch เป็นเกมแอ็กชันสวมบทบาทที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Kickstarter และพัฒนาโดย Eleventh Hour Games สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เล่นอย่างล้นหลาม แม้จะอยู่ในช่วงโอเพ่นเบต้าก็ตาม เกมนี้เน้นการสร้างและพัฒนาตัวละครและสกิล มีอาชีพให้ผู้เล่นเลือกหลากหลาย และ Skill Tree กว่า 110 สกิลให้อัปเกรดและลองเล่นแบบไม่ซ้ำกัน

เกมเพลย์ของ Last Epoch นั้นเป็นเกมตะลุยดันเจียนแบบฟาดฟัน (Hack and Slash) พร้อมสไตล์เกมแนวแฟนตาซีเดินทางข้ามเวลา เกมนี้ถือกำเนิดด้วยความลงเอยที่ไม่ซ้ำใครด้วยสภาพแวดล้อมและระบบการเล่นที่หลากหลาย และการปรับแต่งตัวละครที่มีผลต่อรูปแบบเกมเป็นอย่างยิ่ง ผู้เล่นสามารถเลือกสร้างตัวละครพื้นฐานได้ 5 แบบ และมีอาชีพที่พัฒนาจากอาชีพเดิมอีก 16 อาชีพ เช่น Druid และ Beastmaster โดยอาชีพอื่น ๆ จะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นในอนาคต

กำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางจะเริ่มช่วงปี 2020 จึงยังมีเวลาให้ผู้เล่นสามารถเข้าไปทดลองเล่นเวอร์ชันตัวได้ สามารถเข้าไปดูข่าวสารของ Eleventh Hour เกี่ยวกับแพตช์ที่จะมีการอัปเดต ซึ่งรวมถึงการประกาศที่กล่าวว่าอาจมีการลดราคาเกมในช่วงวางจำหน่าย และผู้เล่นช่วงเบต้าสามารถเข้าไปรับรางวัลและไอเทมอีกมากมาย Last Epoch สามารถเล่นได้ในหลายระบบปฏิบัติการ ฉะนั้นขอแนะนำเกมนี้ให้กับแฟนตัวยงของเกมตะลุยดันเจียน PC ทั้งหลาย

3. Children of Morta

ผู้พัฒนาเกม: Dead Mage | วางจำหน่ายเมื่อ 3 กันยายน 2019

Children of Morta มอบประสบการณ์เกมแอนิเมชันภาพพิกเซลที่โดดเด่นด้วยงานศิลป์และหลากสีสัน เน้นการเสพเนื้อเรื่องและดำเนินเรื่องผ่านตัวละครของผู้เล่นไม่ซ้ำกัน เป็นเกมอีกหนึ่งแนวคิดของ Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย Children of Morta เป็นที่นิยมด้วยเนื้อเรื่องที่ชวนดื่มด่ำและแนวเกมเพลย์แบบวนลูป

จุดเริ่มต้นของเกม Children of Morta เริ่มจากครอบครัวตระกูล Bergson ซึ่งสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนมีทักษะและบทบาทเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป หน้าที่ของพวกเขาคือการปกปักรักษา Mount Morta โดยเกมนี้บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวตระกูล Bergsons ที่ต้องเผชิญและฝ่าฟันเหล่าปีศาลร้ายที่เรียกว่า The Corruption ในแต่ละดันเจียน ดำเนินเรื่องราวผ่านตัวละครต่าง ๆ ที่คุณชอบ ผจญภัยและอัปเกรดทักษะของสมาชิกในครอบครัวให้เก่งยิ่งขึ้น

เหล่าแฟน ๆ ที่รอคอยโหมดผู้เล่นหลายคนแบบออนไลน์อาจต้องทนอีกนิด ปัจจุบัน Children of Morta มีฟีเจอร์สำหรับโหมดผู้เล่นเดี่ยวและโหมด Co-op สำหรับผู้เล่นในเครือข่ายเดียวกัน Dead Mage ดำเนินการอัปเดตเกมครั้งใหญ่สองครั้ง ซึ่งโหมดผู้เล่นหลายคนแบบออนไลน์จะมีกำหนดการเปิดให้เล่นหลังจากพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ

4. UnderMine

ผู้พัฒนาเกม: Thorium Entertainment | วางจำหน่ายเมื่อ 20 สิงหาคม 2019 (โอเพ่นเบต้า)

UnderMine เป็นอีกหนึ่งเกมยอดนิยมในช่วงโอเพ่นเบต้า ซึ่งพัฒนาโดย Thorium Entertainment เกมนี้เป็นเกมแอ็กชันผจญภัยแนวตะลุยดันเจียนแบบสุ่ม (rogue-like) เกมนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีเมื่อเทียบในเรื่องของความคลาสสิกกับเกมต้นแบบอย่าง Legend of Zelda หรือ Binding of Isaac ซึ่งก็ควรค่าแก่เสียงตอบรับเชิงบวกอย่างยิ่ง

เกมนี้เน้นการขุดเหมืองโดยใช้อุปกรณ์หรือระบบภายในเกมต่าง ๆ ที่ทรงพลัง ผู้เล่นจะได้รับมอบหมายให้ทำเควสต์และรวบรวมไอเทมเพื่อให้ตัวละครแข็งแกร่ง และสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดันเจียนอย่างง่ายดาย หากตัวละครของคุณตาย จะไม่สามารถเกิดใหม่และตายแบบถาวร (Permadeath) ซึ่งหมายถึงคุณจะต้องเริ่มเล่นและสร้างตัวละครใหม่ทั้งหมด คุณต้องเอาตัวรอดโดยการใช้ยาประทังชีวิต ต่อสู้กับบอส และทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่ติดอยู่ใต้ดินใน UnderMine

เกมนี้ยังไม่มีวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่มีแนวโน้มว่าจะเปิดตัวในปี 2020  ในขณะเดียวกัน Thorium หรือผู้พัฒนาก็ได้อธิบายถึงแผนการเปิดตัวอย่างละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ทีมผู้พัฒนาหลักของ UnderMine มีเพียงแค่สองคน แต่จนถึงปัจจุบันพวกเขาก็ออกมาอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และกำหนดการต่าง ๆ ก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ไม่มีคลาดเคลื่อน

5. Darksiders Genesis

ผู้พัฒนาเกม: Airship Syndicate | วางจำหน่ายเมื่อ 5 ธันวาคม 2019

Darksiders Genesis อ้างอิงจากจักรวาลของซีรีส์ Darksiders และเป็นภาคปฐมบทก่อนซีรีส์ไตรภาคจะถือกำเนิด นำแฟรนไชส์ที่แฟน ๆ ต่างคุ้นเคยมาผสมผสานรูปแบบมุมมองการเล่นจากด้านบน เพื่อสัมผัสถึงความคลาสสิกของเกมตะลุยดันเจียน หลังจากที่เกม Battle Chasers: Nightwar และ Darksiders Genesis ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม Airship Syndicate มุ่งพัฒนาแนวเกมและรูปแบบการเล่นของเกมแนวนี้โดยเฉพาะ ซึ่งสร้างชื่อเสียงพร้อมได้รับการตอบรับจากเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างดี

หลังจากที่ผู้พัฒนามีการปรับเปลี่ยนมุมมองและรูปแบบเกมโฉมใหม่ สำหรับ Genesis นั้น หัวใจหลักสำคัญของเกมเพลย์คือการต่อสู้แย่งชิงไอเทม ชาววงการเกม Diablo ถ้าได้มาสัมผัสเกมนี้คงจะโดนใจไม่ใช่น้อย เนื้อเรื่องภายในเกมบอกเล่าเรื่องราวถึงการสู้รบของเหล่าจตุรอาชาทั้งสี่แห่งเอเดน (Eden) และสภา (The Charred Council) ส่ง War กับ Strife เพื่อยุติความขัดแย้งและแผนการประทุษร้ายของราชาปีศาจ (Lucifer) Genesis นำเสนอการเล่นรูปแบบใหม่ที่น่าดึงดูดใจเพื่อให้ผู้เล่นเข้าใจถึงความเป็นมาของจักรวาลเกม และสร้างความดื่มด่ำให้แก่ผู้เล่นที่เสพซีรีส์เกมนี้อีกด้วย 

Genesis ถือเป็นเกมแรกในแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการเปิดตัวโหมดการเล่นกับเพื่อนแบบแบ่งหน้าจอ (Split-screen Co-op) ในศึกโหมดผู้เล่นร่วมมือ (Cooperative) ผู้เล่นจะได้ดำเนินเนื้อเรื่องผ่านตัวละคร War หรือ Strife ซึ่งต่างจากโหมดเล่นคนเดียวที่ต้องสลับตัวละครไปมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวภายในเกม

6. Torchlight 2

ผู้พัฒนาเกม: Runic Games | วางจำหน่ายเมื่อ 20 กันยายน 2012

Torchlight 2 เป็นเกมซีรีส์ภาคต่อที่ได้รับความนิยมจากแฟน ๆ อย่างล้นหลาม แฟน ๆ ต่างต้องประทับใจเพราะภาคนี้ยังคงสานต่อและยึดมั่นในจิตวิญญาณของภาคต้นฉบับ ขณะเดียวกันก็ได้พัฒนารูปแบบเกมเพลย์ที่ทุกคนต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เช่น โหมด Multiplayer แถมฐานแฟนเกมก็ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ช่วงเดือนกันยายน 2019 เกมได้รับการพัฒนาให้สามารถเล่นได้ในหลายแพลตฟอร์ม

Torchlight 2 นำเสนอเกมเพลย์และกลไกของเกมที่หลายคนต่างคุ้นเคย ที่สำคัญคือมอบประสบการณ์ต่อยอดให้แก่ผู้เล่น พร้อมเซ็ตอาชีพของตัวละครแบบใหม่ที่คุณจะได้สัมผัส ซึ่งรวมถึง Engineer (เน้นด้านเทคนิค), Outlander (โจมตีระยะไกล), Berserker (ผสมผสานระหว่างโจมตีประชิดและความเร็ว) และ Embermage (โจมตีแบบธาตุ) เกมดำเนินเรื่องราวต่อจากหน้าที่หนักแน่นที่ภาคแรกทิ้งไว้ให้สานต่อ โดยผู้เล่นจะต้องเผชิญกับ Alchemist สุดบ้าคลั่ง ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสู้ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่และเอาชนะเมือง Torchlight ด้วยกัน

แฟน ๆ ต่างจับจองที่นั่งและรออย่างมีความหวัง เมื่อมีข่าวออกมาเกี่ยวกับรายละเอียดเกม Torchlight 3 โดยมีการเปลี่ยนชื่อในช่วงนาทีสุดท้าย จากชื่อที่วางแผนไว้คือ Torchlight Frontiers ขณะที่ Echtra Games กำลังเตรียมพร้อมเปิดตัว Torchlight 3 นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เล่นที่จะได้ลิ้มลองความสนุกของภาคก่อน ๆ ที่แสนคลาสสิก

7. Moonlighter

ผู้พัฒนาเกม: Digital Sun | วันวางจำหน่าย: 29 พฤษภาคม 2018

วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2018 โดย Digital Sun ผู้พัฒนาวิดีโอเกมอินดี้ชาวสเปน Moonlighter ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกมเพลย์ที่มีความสมดุลและระบบที่ลงตัว นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องในเรื่องของภาพที่แสนงดงามชวนหลงไหล ชวนให้ผู้เล่นระลึกถึงสไตล์เกมแนวศิลปะพิกเซลอย่าง Children of Morta

Moonlighter เป็นเกมแอ็กชันสวมบทบาท (RPG) และตะลุยดันเจียน (Rogue-lite) ที่เข้าถึงได้ง่าย (คล้ายกับเกมแนว Rogue เพียงแต่มีความแตกต่างจากแนว "Roguelike" บางส่วน) ความแหวกแนวไม่เหมือนใครและภาพที่สดใสและอร่ามด้วยสีที่เติมเต็มความมีชีวิตชีวาทำให้ Moonlighter เป็นเกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในเกม Moonlighter นั้นผู้เล่นจะได้สำรวจเมือง Ryoka และสภาพแวดล้อมโดยรอบผ่านการถ่ายทอดเนื้อเรื่องจากสายตาของ Will เจ้าของร้านผู้รักการผจญภัย เขาทำหน้าดูบริหารกิจการยามเช้า แต่ตกดึกเขาคือนักสำรวจซากขุดค้นทางโบราณคดีเก่าแก่ของเมืองและพื้นที่รกร้าง ต่อกรกับเหล่าสัตว์ประหลาด และแย่งชิงไอเทม

แม้ว่าคุณเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบ Moonlighter ยังมี DLC ในรูปแบบของ Moonlighter: Between Dimensions ให้ผู้เล่นได้หนำใจ ตัวเสริมของปี 2019 (Moonlighter: Between Dimensions) เข้ามาเสริมเนื้อเรื่องหลักด้วยเนื้อหาสุดพิเศษมากมายและเนื้อเรื่องใหม่ ๆ รวมถึงสัตว์ประหลาด อุปกรณ์ และอื่น ๆ อีกมาก

8. Slay The Spire

ผู้พัฒนาเกม: MegaCrit | วางจำหน่ายเมื่อ 23 มกราคม 2019

Slay The Spire ต่อยอดความสำเร็จจากการเปิดทดลองให้บริการเกมในช่วงพฤศจิกายน 2017 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก สร้างฐานแฟนเกมได้อย่างล้นหลามเนื่องมาจากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเกมเพลย์แนวเกมการ์ดหรือตะลุยดันเจียนแบบสุ่ม (Roguelike Dungeon Crawler) หลังจากที่องค์ประกอบของเกมมีการดัดแปลงนับตั้งแต่ช่วงเปิดทดลองให้บริการ เหล่าแฟน ๆ และนักวิจารณ์ต่างก็รอคอยกลไกของเกมที่จะได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น

เนื้อเรื่องอาจมีความสำคัญไม่มากนักหากเทียบกับเกมอื่น ในเกม Slay The Spire ผู้เล่นจะได้ตะลุยด่านเพื่อพิชิตยอดตึกระฟ้าด้วยการต่อสู้และแย่งชิงไอเทมเพื่ออัปเกรดการ์ดให้แข็งแกร่ง ระหว่างทางคุณจะได้เผชิญกับบอสในเกม คุณสามารถเสริมหรือซื้อการ์ดใหม่เป็นช่วง ๆ จากพ่อค้าชุดน้ำเงินสุดลึกลับ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีคนหันมาเล่นเกมการ์ดกันมากขึ้นเยอะ หลาย ๆ เกมต่างยกเครดิตให้ Slay The Spire เป็นผู้ที่สร้างอิทธิพลในวงการเกมการ์ดอย่างท่วมท้น แม้ว่ารูปแบบเกมอาจดูไม่คุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับเหล่าแฟน ๆ ที่หลงรักเกมตะลุยดันเจียน การปรากฏตัวของ Slay The Spire ก็ยังสร้างภาพลักษณ์ของเกมได้สุดแกร่งอย่างไม่เป็นรองใคร

9. Binding of Isaac

ผู้พัฒนาเกม: Edmund McMillen & Florian Himsl | วางจำหน่ายเมื่อ 28 กันยายน 2011

Binding of Isaac เตรียมเฉลิมฉลองการเปิดตัวเกมครบรอบ 10 ปี และถือว่าเป็นหนึ่งในเกมตะลุยดันเจียน PC ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยมีมา อีกทั้งเกมนี้เปรียบดั่งผู้บุกเบิกเกมแนว Rogue-like มาพร้อมกับอิทธิพลของเกมที่แพร่หลายทั่วหนแห่ง หรือแม้กระทั่งเกมต่าง ๆ ที่เรากล่าวถึงข้างต้นก็ว่าได้

เนื้อหาและเรื่องราวของเกมนี้มีการอ้างอิงเล็กน้อยถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์อันเลื่องลือ ซึ่งกล่าวถึงอิสอัค (Isaac) ที่ถูกมัดร่างเพื่อเตรียมเข้าสู่พิธีบูชายัญ ทิศทางของเกมนี้จะเน้นเรื่องราวของการหลบหนีและถูกขังลืมที่สุดดาร์กและเข้ากับสมัยใหม่มากขึ้น Isaac ต้องฝ่าฟันเหล่าสัตว์ประหลาดและบอส ในขณะที่เขาฝึกฝนและรวบรวมความแข็งแกร่งเพื่อปลดล็อกความสามารถพิเศษ และดำเนินไปถึงจุดจบของเกมที่มีหลายรูปแบบ

แม้จะมีเนื้อหาที่สุดโหดและเก่าเกือบสิบปีแล้ว แต่ Binding of Isaac ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในด้านของเกมเพลย์ที่เข้าถึงได้และมีความเซอร์เรียล ในปี 2014 ผู้ผลิตเกม Nicalis ได้เปิดตัวเกมในนาม The Binding of Isaac: Rebirth ซึ่งสามารถเล่นบนคอนโซลรุ่นใหม่ ๆ ได้

10. Diablo 3

ผู้พัฒนาเกม: Blizzard Entertainment | วางจำหน่ายเมื่อ: 15 พฤษภาคม 2012

ก่อนที่บทความนี้จะมาถึงจุดจบของเกมตะลุยดันเจียนสุดเก๋ที่เราได้กล่าวไปนั้น หากจะปิดท้ายด้วยเกมสุดพิเศษที่ทุกคนนั้นรอคอย อะไรอีกล่ะที่จะเหมาะสมไปกว่าเกม Diablo 3 ลูกสุดที่รักของ Blizzard เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ฉุกนึกถึงความคลาสสิกและยอดขายดีชนิดเทน้ำเทท่า เปี่ยมไปด้วยคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์จากเหล่าแฟน ๆ และแพตช์ที่ได้รับการพัฒนาจาก Blizzard อย่างต่อเนื่อง

เนื่อเรื่องเปิดมาก็จะได้พบกับ Deckard Cain ไกด์ที่คุ้นหน้าคุ้นตา และ Leah หลานสาวของเขา โดยพวกเขากำลังสำรวจมหาวิหารทริสแทรม (Tristram Cathedral) เพื่อค้นหาหลักฐานคำทำนายในสมัยโบราณ ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Nephalem โดยมีตัวละครให้เลือกทั้ง 7 ซึ่งจะมีอาชีพที่แตกต่างกันออกไป แต่ละอาชีพก็จะมีคุณสมบัติและความสามารถเป็นของตนเอง

Diablo 3 อาจเป็นหนึ่งในเกมที่เก่าแก่ที่สุดที่เรานำมากล่าวถึง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความขลังของเกมนี้อยู่เหนือกาลเวลาจริง ๆ เนื่องจากมีการเพิ่ม Expansion ที่ชื่อว่า Reaper of Souls แถม Blizzard ก็มีแนวโน้มที่จะเปิดตัวภาคต่อ เรายังคงมีอะไรให้พูดถึง Diablo 3 อีกนับไม่ถ้วน

เกมตะลุยดันเจียน (Dungeon Crawler) คืออะไร

คำว่า Dungeon Crawler มักใช้กันอย่างหละหลวม ทว่าโดยทั่วไปนั้นก็ถือเป็นเกมแฟนตาซีประเภทหนึ่งที่จำกัดสภาพแวดล้อมภายในเกมให้ผู้เล่นตะลุยในแต่ละจุด องค์ประกอบด้าน Action และ RPG ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ เพียงแต่การเสริมความเป็น Roguelike และ Roguelite เข้าไปช่วยให้เกมมีฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่าเดิม เช่น การตายแบบต้องเริ่มเกมใหม่หมดและภาพสไตล์ศิลปะพิกเซล

ข้อสรุป

เหล่าแฟน ๆ เกมตะลุยดันเจียนต่างมีเกมคลาสสิกมากมายให้พึ่งพิง แต่ปัจจุบันก็มีตัวเลือกอื่น ๆ ให้แก่ผู้เล่นอีกมากมายเช่นเดียวกัน มีเกมใหม่ ๆ มากมายที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปสัมผัส และยังมีเกมอีกนับไม่ถ้วนให้ผู้เล่นได้ตั้งตารอตลอดปี 2022 ผู้พัฒนาต่างต้องแข่งขันเพื่อดึงดูดความสนใจจากเหล่าผู้เล่น ดังนั้นรายชื่อเกมตะลุยดันเจียนตัวท็อปสำหรับปีหน้าอาจแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง