ขอบคุณสําหรับการเยี่ยมชม ไทย HP เก็บ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 8.30 – 17.30 น.
( ยกเว้นวันหยุดราชการ )
วันจันทร์ - วันศุกร์ 8.30 – 17.30 น.
( ยกเว้นวันหยุดราชการ )
ในฐานะที่เป็นเกมเมอร์แล้วทุกคุณทราบดีว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงมีความสำคัญต่อประสบการณ์การเล่นเกมของคุณมากขนาดไหน และคุณน่าจะรู้ว่าการมีคีย์บอร์ดที่เหมาะสมก็สามารถสร้างหรือทำลายประสบการณ์นั้นได้ แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าคุณมีทางเลือกมากกว่าที่คุณคิด
คีย์บอร์ดจำแนกตามประเภทของเทคโนโลยีสวิตช์ที่ใช้ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ คีย์บอร์ดแมคคานิคอล และคีย์บอร์ดเมมเบรน อ่านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละประเภท
คีย์บอร์ด Mechanical คือคีย์บอร์ดที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเวลาพูดถึงคีย์บอร์ด มันเป็นคีย์บอร์ดหน้าตาคลาสสิกและแข็งแรงจากยุค 1980 คำจำกัดความที่ถูกต้องคือคีย์บอร์ดแมคคานิคอลทำขึ้นโดยมีสวิตช์พลาสติกคุณภาพสูงประกอบอยู่ใต้ปุ่มกดแต่ละอัน
การพิมพ์บนคีย์บอร์ดแมคคานิคอลคือการกดลงบนคีย์แคปซึ่งจะทำให้สวิตช์ข้างใต้ที่ติดสปริงไว้ทำงาน ดังนั้นเมื่อคุณกดปุ่ม คุณจะรู้สึกได้ว่าคุณได้ยินเสียง "คลิก" ให้คุณรู้ว่าคุณได้กดคีย์แรงพอจะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตอบสนองแล้ว (และคุณจะรู้ได้ว่าคุณไม่ได้พลาดกดปุ่มตัวอักษร/ตัวเลขอะไรไป)
สวิตช์คีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่ใช้ระบบเชิงเส้นหรือระบบเชิงสัมผัส สวิตช์ระบบเชิงเส้นต้องกดให้สุด ในขณะที่สวิตช์ระบบเชิงสัมผัสเพียงแค่กดเบาๆ ลงไปครึ่งเดียวก็ใช้งานได้ ดังนั้นคุณก็จะสามารถไปกดคีย์ต่อไปได้ไวและง่ายยิ่งขึ้น
ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 บริษัทที่ชื่อว่า Cherry เคยพัฒนาและผลิตคีย์สวิตช์พลาสติกที่เรียกว่าสวิตช์ Cherry MX ซึ่งมักถูกอ้างอิงด้วยสีของก้านกุญแจ [1] ปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตคีย์บอร์ดสำหรับพีซีหลายรายที่พัฒนาสวิตช์เหล่านี้ ซึ่งได้แก่ Razer, Logitech, Corsair และอื่นๆ
สวิตช์แต่ละตัวจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะต่างๆ ซึ่งรวมถึงเสียงที่ได้ยิน ความรู้สึกสัมผัสของสวิตช์ แรงที่ต้องใช้เพื่อกด แอปพลิเคชันของคีย์บอร์ด และการตั้งค่าของผู้ใช้
นอกจากการเปลี่ยนสวิตช์แล้ว คุณยังสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดแมคคานิคอลได้ด้วยวิธีต่างๆ อีกมากมาย มีคีย์แพดสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะที่มีปุ่มปรับโปรแกรมได้ตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 20 ปุ่ม อุปกรณ์เหล่านี้มีการปรับแต่งและการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่คล้ายกันกับที่พบในอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ เช่น เมาส์สำหรับเล่นเกม และสามารถนำไปใช้กับฟังก์ชันการเล่นเกมของคีย์บอร์ด
คุณสามารถใช้คีย์บอร์ดแบบติดไฟที่ให้แสงไฟ LED สามารถส่องผ่านคีย์แคปได้ ส่องสว่างออกมาได้อย่างอลังการ ตัวอย่างเช่น ด้วย HP OMEN 1100 Mechanical Keyboard แต่ละปุ่มจะเรืองแสงสีแดงเข้มจากไฟ LED เฉพาะของตัวเอง
อีกทางเลือกหนึ่งคือเปลี่ยนคีย์แคปด้วยวัสดุบางอย่าง เช่น พลาสติกที่ทนทานหรือหุ่นปั้น เพื่อไม่ให้ตัวอักษรสึกหรอไป หลายๆ คนอยากปรับคีย์บอร์ดให้เป็นของตนเองมากที่สุดด้วยการปรับคีย์แคปด้วยรูป สี ชื่อ รูปทรง หรือโลโก้ต่างๆ
คีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยางเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน คีย์บอร์ดเหล่านี้มีทั้งคีย์บอร์ดที่ใช้กันในปัจจุบัน คีย์บอร์ดต้นทุนต่ำที่ใช้ในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก คอนโทรลเลอร์มือถือ โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ
คีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยางใช้ปุ่มยางในการตอบสนอง ซึ่งต่างจากสปริงและโลหะในคีย์บอร์ดแมคคานิคอล คีย์บอร์ดแบบนี้มีโครงสร้างง่ายๆ ที่ประกอบไปด้วยปุ่มยางที่เมื่อกดจะทำให้แผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ในคีย์บอร์ดสมบูรณ์ การทำงานที่ง่ายทำให้สามารถผลิตออกมาได้ด้วยต้นทุนต่ำมากกว่าคีย์บอร์ดทำให้เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กังวลเรื่องเงิน
คีย์บอร์ดเมมเบรนมีสองประเภท ได้แก่ คีย์บอร์ดเมมเบรนแบบแป้นแบนและคีย์บอร์ดเมมเบรนแบบเคลื่อนที่เต็มรูปแบบ แบบแรกสามารถพบได้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเครื่องถ่ายเอกสาร ตู้เย็น และเตาไมโครเวฟ แบบหลังคือคีย์บอร์ดที่พบได้ทั่วไปในคอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้
ส่วนประกอบหลักของปุ่มติดตั้งบนเมมเบรนสามชั้น เมื่อกดปุ่ม ชั้นบนจะถูกกดผ่านรูที่ชั้นกลางและทำให้วัสดุนำไฟฟ้าจากชั้นบนลงมาสัมผัสกับวัสดุนำไฟฟ้าที่ชั้นล่าง ทำให้วงจรสมบูรณ์และตรวจจับการกดคีย์บอร์ดได้
คีย์บอร์ดโดมสวิตช์เป็นแบบผสมผสานระหว่างคีย์บอร์ดเมมเบรนแบบแป้นแบนและคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสวิตช์ เทคโนโลยีนี้บางครั้งก็เรียกว่าเมมเบรนสวิตช์หรือปุ่มบางเพราะเป็นคีย์บอร์ดที่มีดีไซน์ไม่หลากหลาย
คีย์บอร์ดต้นทุนต่ำในทุกวันนี้ใช้เทคโนโลยีโดมสวิตข์ซึ่งตรวจจับการกดปุ่มเมื่อคุณพิมพ์และกดโดมซิลิโคนลงไปซึ่งทำให้แผงวงจรทั้งสองเชื่อมต่อกันสมบูรณ์
คีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรเป็นคีย์บอร์ดแบบปุ่มยางชนิดหนึ่งที่ปกติใช้ในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กและคีย์บอร์ดแบบ low-profile อื่นๆ ซึ่งก็ใช้ใน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กสำหรับเล่นเกมและเครื่องพีซี
ในขณะที่พวกเขาใช้ปุ่มยาง คีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรจะยึดปุ่มเข้ากับคีย์บอร์ดผ่านชิ้นส่วนพลาสติกสองชิ้นที่เชื่อมต่อกันเหมือนกรรไกร กลไกแบบกรรไกรนี้ช่วยลดช่องว่างและระยะเวลาการส่งสัญญาณ (หรือที่เรียกว่า “ระยะการสั่งงาน” ดูด้านล่าง) กว่าคีย์บอร์ดปุ่มยางแบบดั้งเดิม
แม้ว่าสวิตช์เหล่านี้จะทำงานแบบกลไก แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคีย์บอร์ดแบบกลไก เนื่องจากไม่มีสวิตช์แบบสปริงและไม่รองรับการปรับแต่งคีย์แคป
ปกติแล้วคีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรจะทำความสะอาดได้ยากกว่าคีย์บอร์ดแบบเมมเบรนอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกัน คีย์บอร์ดเหล่านี้ก็มีโอกาสน้อยที่จะมีเศษผงเข้าไปติดเพราะทั้งปุ่มและช่องว่างระหว่างปุ่มมีขนาดเล็ก
คีย์บอร์ดออปติคัลหรือโฟโตออปติคัลเรียกอีกอย่างว่าคีย์บอร์ดตอบสนองต่อแสงหรือคีย์บอร์ดโฟโตอิเล็กทริก คีย์บอร์ดประเภทนี้ใช้ไดโอดส่องแสง (LED) และเซ็นเซอร์ภาพเพื่อตรวจจับแบบออปติคัลเมื่อมีการกดปุ่มและเป็นคีย์บอร์ดที่รวดเร็วมาก
HP OMEN Sequencer Mechanical Keyboard มีเวลาตอบสนอง 0.2 ms ซึ่งเร็วกว่าสวิตช์แมคคานิคอลทั่วไปถึง 10 เท่า คีย์บอร์ดออปติคัลทนทานและมักจะกันฝุ่นและน้ำ
การเลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอลให้เข้ากับการเล่นเกมของคุณเป็นเรื่องของประสบการณ์ส่วนตัว เกมเมอร์ส่วนใหญ่จะชอบใช้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลเนื่องจากการสัมผัส ความทนทาน และความเร็วที่มากกว่า ในขณะเดียวกันเกมเมอร์บางคนก็ชอบคีย์บอร์ดเมมเบรนที่มีขนาดเล็กว่า พกพาสะดวก และมีราคาที่ต่ำกว่า และก็ยังมีเกมเมอร์อีกกลุ่มที่ชอบทั้งสองแบบผสมกัน
นี่คือลักษณะพิเศษไว้พิจารณาเมื่อต้องเลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอล
น้ำหนักปุ่มคือแรงที่ต้องใช้ในการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด เป็นระยะเวลาการส่งสัญญาณที่จำเป็นต้องใช้ในการตรวจจับของคีย์บอร์ด หรือก็คือคุณต้องกดปุ่มแรงขนาดไหนเพื่อให้คีย์บอร์ดตรวจจับได้
น้ำหนักของปุ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตั้งแต่ 35 กรัมจนสูงได้ถึง 350 กรัม คีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักปุ่ม 45 ถึง 60 กรัม
ระยะห่างการใช้งานเป็นระยะห่างที่สวิตช์ต้องใช้ในการปล่อยการกดเพื่อให้ตรวจจับอินพุตได้ ซึ่งวัดระยะห่างจากด้านบนของคีย์แคป ค่าเฉลี่ยสำหรับคีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่คือ 2 มม. แต่ก็มีบางรุ่นที่ระยะห่างน้อยกว่า 1 มม.
การมีระยะห่างการเรียกใช้งานที่สั้นไม่ได้ทำให้คุณเป็นเกมเมอร์ที่เก่งกาจมากขึ้น กลับกันคุณอาจจะกดผิดมากกว่าเดิมด้วย เพราะมีสัมผัสที่เบากว่า
การสัมผัสหมายถึงการตอบสนองและแรงต้านที่คุณรู้สึกเมื่อพิมพ์ ซึ่งสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของปุ่มขณะทำการกดปุ่ม การตอบสนองจะได้ยินเป็นเสียงคลิก รวมถึงเห็นได้ด้วยตาเมื่อคุณใช้นิ้วกดลงไปบนปุ่ม ซึ่งจะเด้งปุ่มกลับขึ้นมา
คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมักจะมีสัมผัสที่มากกว่า ในทางกลับกันคีย์บอร์ดเมมเบรนหลายรุ่นไม่ให้สัมผัสและรู้สึกนุ่มมือจากการใช้งานและการสึกหรอซึ่งเป็นเพราะการออกแบบของคีย์บอร์ด แม้ว่าคีย์บอร์ดเมมเบรนสามารถปรับแต่งให้มีสัมผัสได้บ้าง แต่ก็ยังขาดสัมผัสสู้มือของปุ่มแบบที่คีย์บอร์ดแมคคานิคอลหรือคีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกร
ระดับเสียงและเสียงรบกวนของคีย์บอร์ดอาจเป็นเรื่องสำคัญได้ตามรูปแบบการใช้งานของคุณหรือเกมที่เล่น และสถานที่ที่คุณเล่น คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีเสียงดังกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เพราะมีเสียงคลิกทั้งตอนเริ่มและหลังกดปุ่ม
ส่วนคีย์บอร์ดเมมเบรนมีเสียงเงียบที่สุด เพราะใช้ยางหรือซิลิโคนที่กันกระแทกซึ่งคีย์บอร์ดแมคคานิคอลไม่มี ปุ่มเมมเบรนสวิตช์แบบกรรไกรมีเสียงที่ดังกว่าปุ่มเมมเบรนทั่วไป เนื่องจากมียางที่กันกระแทกน้อยกว่า
การวัดความทนทานนั้นพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนการกดปุ่มของคีย์บอร์ดแมคคานิคอลที่กดได้ตลอดอายุการใช้งาน ให้คำนวณจากการกดปุ่มต่อชั่วโมง (KPH) เฉลี่ยประมาณ 8,000 KPH และจากนั้นคูณค่านี้ตามปริมาณชั่วโมงที่เกมเมอร์มักจะเล่นตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณก็จะเห็นได้ว่าตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
คีย์บอร์ดแมคคานิคอลทนทานมากกว่าแบบเมมเบรนหรือคีย์บอร์ดปุ่มยาง เช่น สวิตช์ Cherry MX มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้สูง 20 ถึง 50 ล้านครั้ง โดยขึ้นอยู่กับประเภทของสวิตช์ [2]
เช่น คีย์บอร์ด HP OMEN Sequencer Mechanical Keyboard มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้ 70 ล้านครั้ง คีย์บอร์ดเมมเบรน/ปุ่มยาง โดยเฉลี่ยแล้ว มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้ประมาณ 5 ล้านครั้ง
คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีราคาตั้งแต่ 60 ดอลลาร์ขึ้นไปจนถึง 200 ดอลลาร์ และถ้าคุณโอเคกับรุ่นเก่าๆ หน่อย ราคาก็จะถูกลงไปอีก นอกจากนี้ราคาระหว่างแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ทั่วไป รวมไปถึงคีย์บอร์ดขนาดใหญ่และมีหรือไม่มีไฟก็มีราคาต่างกันด้วย
ข้อดีและข้อเสียบางประการของคีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีดังนี้
[[1] Deskthority.net; Cherry MX Switches
[2] CherryAmericas.com; สวิตช์ Cherry MX Series 2
วันจันทร์ - วันศุกร์ 8.30 – 17.30 น.
( ยกเว้นวันหยุดราชการ )
วันจันทร์ - วันศุกร์ 8.30 – 17.30 น.
( ยกเว้นวันหยุดราชการ )