Mechanical Keyboard แนะนํา

ในฐานะที่เป็นเกมเมอร์แล้วทุกคุณทราบดีว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงมีความสำคัญต่อประสบการณ์การเล่นเกมของคุณมากขนาดไหน และคุณน่าจะรู้ว่าการมีคีย์บอร์ดที่เหมาะสมก็สามารถสร้างหรือทำลายประสบการณ์นั้นได้ แต่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าคุณมีทางเลือกมากกว่าที่คุณคิด

คีย์บอร์ดจำแนกตามประเภทของเทคโนโลยีสวิตช์ที่ใช้ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ คีย์บอร์ดแมคคานิคอล และคีย์บอร์ดเมมเบรน อ่านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละประเภท

คีย์บอร์ด Mechanical คืออะไร

คีย์บอร์ด Mechanical คือคีย์บอร์ดที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเวลาพูดถึงคีย์บอร์ด มันเป็นคีย์บอร์ดหน้าตาคลาสสิกและแข็งแรงจากยุค 1980 คำจำกัดความที่ถูกต้องคือคีย์บอร์ดแมคคานิคอลทำขึ้นโดยมีสวิตช์พลาสติกคุณภาพสูงประกอบอยู่ใต้ปุ่มกดแต่ละอัน

สวิตช์ของคีย์บอร์ดเหล่านี้ประกอบด้วย

  • คีย์แคป: ฝาครอบด้านบนที่มีตัวอักษร/ตัวเลข
  • ก้านปุ่มกด: ส่วนที่อยู่ใต้ปุ่มกดที่เลื่อนลงเมื่อกด
  • ฐานปุ่ม: เคสที่ยึดส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน

การพิมพ์บนคีย์บอร์ดแมคคานิคอลคือการกดลงบนคีย์แคปซึ่งจะทำให้สวิตช์ข้างใต้ที่ติดสปริงไว้ทำงาน ดังนั้นเมื่อคุณกดปุ่ม คุณจะรู้สึกได้ว่าคุณได้ยินเสียง "คลิก" ให้คุณรู้ว่าคุณได้กดคีย์แรงพอจะให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตอบสนองแล้ว (และคุณจะรู้ได้ว่าคุณไม่ได้พลาดกดปุ่มตัวอักษร/ตัวเลขอะไรไป)

เชิงเส้น vs. เชิงสัมผัส

สวิตช์คีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่ใช้ระบบเชิงเส้นหรือระบบเชิงสัมผัส สวิตช์ระบบเชิงเส้นต้องกดให้สุด ในขณะที่สวิตช์ระบบเชิงสัมผัสเพียงแค่กดเบาๆ ลงไปครึ่งเดียวก็ใช้งานได้ ดังนั้นคุณก็จะสามารถไปกดคีย์ต่อไปได้ไวและง่ายยิ่งขึ้น

HP OMEN Mechanical Gaming KeyboardHP OMEN Mechanical Gaming Keyboard

สวิตช์ Cherry MX

ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 บริษัทที่ชื่อว่า Cherry เคยพัฒนาและผลิตคีย์สวิตช์พลาสติกที่เรียกว่าสวิตช์ Cherry MX ซึ่งมักถูกอ้างอิงด้วยสีของก้านกุญแจ [1] ปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตคีย์บอร์ดสำหรับพีซีหลายรายที่พัฒนาสวิตช์เหล่านี้ ซึ่งได้แก่ Razer, Logitech, Corsair และอื่นๆ

สวิตช์แต่ละตัวจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะต่างๆ ซึ่งรวมถึงเสียงที่ได้ยิน ความรู้สึกสัมผัสของสวิตช์ แรงที่ต้องใช้เพื่อกด แอปพลิเคชันของคีย์บอร์ด และการตั้งค่าของผู้ใช้

สวิตช์ Cherry MX ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่

  • Cherry Blue - สวิตช์การพิมพ์ที่ตอบสนองด้วยความรู้สึกจากการสัมผัสและเสียง (ที่ดังที่สุด) สวิตช์ยังทำงานได้แม้จะกดเพียงแค่ครึ่งเดียวแล้วปล่อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพิมพ์แต่อาจไม่เหมาะนักสำหรับการเล่นเกมบางประเภท เช่นเกมที่มีการต่อสู้ที่ต้องโหลดอาวุธอย่างรวดเร็ว
  • Cherry Green - แข็งกว่าเล็กน้อย
  • Cherry Red - สวิตช์สำหรับเล่นเกม/สวิตช์เชิงเส้น การคลิกนุ่มมากขึ้นและใช้เพียงแค่การสัมผัสเบาๆ เหมาะสำหรับเล่นเกมต่างๆ สวิตช์จะทำงานเมื่อกดจนสุด ตัวอย่างเช่น HP Pavilion Gaming Keyboard 500 มอบสัมผัสการกดคีย์บอร์ดที่นิ่มนวลมากกว่าเดิมที่ทำให้สามารถกดได้อย่างรวดเร็วโดยไร้เสียงรบกวน
  • Cherry Black - แข็งกว่าเล็กน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเกมที่ต้องการความแม่นยำและคุณไม่ต้องการกดปุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น เกมวางแผนแบบเรียลไทม์ (RTS) หรือเกมสวมบทบาท (RPG)
  • Cherry Brown - กดเพียงครึ่งเดียว สวิตช์กึ่งกลาง/สวิตช์เชิงสัมผัส ให้ความนุ่มนวลเหมือนกับ Red แต่มีปุ่มระบบสัมผัสที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องสลับระหว่างการทำงานและการเล่นเกมจริงจัง 
  • Cherry Silver - สวิตช์เชิงเส้น ยอดเยี่ยมสำหรับเกมที่ต้องการการกดปุ่มที่หนักกว่าเนื่องจากทักษะการรีเฟรชอย่างต่อเนื่อง

คีย์บอร์ดปรับแต่ง

นอกจากการเปลี่ยนสวิตช์แล้ว คุณยังสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดแมคคานิคอลได้ด้วยวิธีต่างๆ อีกมากมาย มีคีย์แพดสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะที่มีปุ่มปรับโปรแกรมได้ตั้งแต่ 10 ไปจนถึง 20 ปุ่ม อุปกรณ์เหล่านี้มีการปรับแต่งและการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่คล้ายกันกับที่พบในอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ เช่น เมาส์สำหรับเล่นเกม และสามารถนำไปใช้กับฟังก์ชันการเล่นเกมของคีย์บอร์ด

คุณสามารถใช้คีย์บอร์ดแบบติดไฟที่ให้แสงไฟ LED สามารถส่องผ่านคีย์แคปได้ ส่องสว่างออกมาได้อย่างอลังการ ตัวอย่างเช่น ด้วย HP OMEN 1100 Mechanical Keyboard แต่ละปุ่มจะเรืองแสงสีแดงเข้มจากไฟ LED เฉพาะของตัวเอง

อีกทางเลือกหนึ่งคือเปลี่ยนคีย์แคปด้วยวัสดุบางอย่าง เช่น พลาสติกที่ทนทานหรือหุ่นปั้น เพื่อไม่ให้ตัวอักษรสึกหรอไป หลายๆ คนอยากปรับคีย์บอร์ดให้เป็นของตนเองมากที่สุดด้วยการปรับคีย์แคปด้วยรูป สี ชื่อ รูปทรง หรือโลโก้ต่างๆ

คีย์บอร์ดเมมเบรนคืออะไร

คีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยางเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน คีย์บอร์ดเหล่านี้มีทั้งคีย์บอร์ดที่ใช้กันในปัจจุบัน คีย์บอร์ดต้นทุนต่ำที่ใช้ในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก คอนโทรลเลอร์มือถือ โทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ

คีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยาง

คีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยางใช้ปุ่มยางในการตอบสนอง ซึ่งต่างจากสปริงและโลหะในคีย์บอร์ดแมคคานิคอล คีย์บอร์ดแบบนี้มีโครงสร้างง่ายๆ ที่ประกอบไปด้วยปุ่มยางที่เมื่อกดจะทำให้แผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ในคีย์บอร์ดสมบูรณ์ การทำงานที่ง่ายทำให้สามารถผลิตออกมาได้ด้วยต้นทุนต่ำมากกว่าคีย์บอร์ดทำให้เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กังวลเรื่องเงิน

คีย์บอร์ดเมมเบรนมีสองประเภท ได้แก่ คีย์บอร์ดเมมเบรนแบบแป้นแบนและคีย์บอร์ดเมมเบรนแบบเคลื่อนที่เต็มรูปแบบ แบบแรกสามารถพบได้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นเครื่องถ่ายเอกสาร ตู้เย็น และเตาไมโครเวฟ แบบหลังคือคีย์บอร์ดที่พบได้ทั่วไปในคอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้

ส่วนประกอบหลักของปุ่มติดตั้งบนเมมเบรนสามชั้น เมื่อกดปุ่ม ชั้นบนจะถูกกดผ่านรูที่ชั้นกลางและทำให้วัสดุนำไฟฟ้าจากชั้นบนลงมาสัมผัสกับวัสดุนำไฟฟ้าที่ชั้นล่าง ทำให้วงจรสมบูรณ์และตรวจจับการกดคีย์บอร์ดได้

คีย์บอร์ดโดมสวิตช์

คีย์บอร์ดโดมสวิตช์เป็นแบบผสมผสานระหว่างคีย์บอร์ดเมมเบรนแบบแป้นแบนและคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสวิตช์ เทคโนโลยีนี้บางครั้งก็เรียกว่าเมมเบรนสวิตช์หรือปุ่มบางเพราะเป็นคีย์บอร์ดที่มีดีไซน์ไม่หลากหลาย

คีย์บอร์ดต้นทุนต่ำในทุกวันนี้ใช้เทคโนโลยีโดมสวิตข์ซึ่งตรวจจับการกดปุ่มเมื่อคุณพิมพ์และกดโดมซิลิโคนลงไปซึ่งทำให้แผงวงจรทั้งสองเชื่อมต่อกันสมบูรณ์

คีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกร

คีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรเป็นคีย์บอร์ดแบบปุ่มยางชนิดหนึ่งที่ปกติใช้ในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กและคีย์บอร์ดแบบ low-profile อื่นๆ ซึ่งก็ใช้ใน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กสำหรับเล่นเกมและเครื่องพีซี

ในขณะที่พวกเขาใช้ปุ่มยาง คีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรจะยึดปุ่มเข้ากับคีย์บอร์ดผ่านชิ้นส่วนพลาสติกสองชิ้นที่เชื่อมต่อกันเหมือนกรรไกร กลไกแบบกรรไกรนี้ช่วยลดช่องว่างและระยะเวลาการส่งสัญญาณ (หรือที่เรียกว่า “ระยะการสั่งงาน” ดูด้านล่าง) กว่าคีย์บอร์ดปุ่มยางแบบดั้งเดิม

แม้ว่าสวิตช์เหล่านี้จะทำงานแบบกลไก แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคีย์บอร์ดแบบกลไก เนื่องจากไม่มีสวิตช์แบบสปริงและไม่รองรับการปรับแต่งคีย์แคป

ปกติแล้วคีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกรจะทำความสะอาดได้ยากกว่าคีย์บอร์ดแบบเมมเบรนอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกัน คีย์บอร์ดเหล่านี้ก็มีโอกาสน้อยที่จะมีเศษผงเข้าไปติดเพราะทั้งปุ่มและช่องว่างระหว่างปุ่มมีขนาดเล็ก

คีย์บอร์ดออปติคัลหรือโฟโตออปติคัล

คีย์บอร์ดออปติคัลหรือโฟโตออปติคัลเรียกอีกอย่างว่าคีย์บอร์ดตอบสนองต่อแสงหรือคีย์บอร์ดโฟโตอิเล็กทริก คีย์บอร์ดประเภทนี้ใช้ไดโอดส่องแสง (LED) และเซ็นเซอร์ภาพเพื่อตรวจจับแบบออปติคัลเมื่อมีการกดปุ่มและเป็นคีย์บอร์ดที่รวดเร็วมาก

HP OMEN Sequencer Mechanical KeyboardHP OMEN Sequencer Mechanical Keyboard

 HP OMEN Sequencer Mechanical Keyboard มีเวลาตอบสนอง 0.2 ms ซึ่งเร็วกว่าสวิตช์แมคคานิคอลทั่วไปถึง 10 เท่า คีย์บอร์ดออปติคัลทนทานและมักจะกันฝุ่นและน้ำ

เลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอลสำหรับเล่นเกมที่ใช่

การเลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอลให้เข้ากับการเล่นเกมของคุณเป็นเรื่องของประสบการณ์ส่วนตัว เกมเมอร์ส่วนใหญ่จะชอบใช้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลเนื่องจากการสัมผัส ความทนทาน และความเร็วที่มากกว่า ในขณะเดียวกันเกมเมอร์บางคนก็ชอบคีย์บอร์ดเมมเบรนที่มีขนาดเล็กว่า พกพาสะดวก และมีราคาที่ต่ำกว่า และก็ยังมีเกมเมอร์อีกกลุ่มที่ชอบทั้งสองแบบผสมกัน

นี่คือลักษณะพิเศษไว้พิจารณาเมื่อต้องเลือกคีย์บอร์ดแมคคานิคอล

น้ำหนักปุ่ม

น้ำหนักปุ่มคือแรงที่ต้องใช้ในการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด เป็นระยะเวลาการส่งสัญญาณที่จำเป็นต้องใช้ในการตรวจจับของคีย์บอร์ด หรือก็คือคุณต้องกดปุ่มแรงขนาดไหนเพื่อให้คีย์บอร์ดตรวจจับได้

น้ำหนักของปุ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตั้งแต่ 35 กรัมจนสูงได้ถึง 350 กรัม คีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักปุ่ม 45 ถึง 60 กรัม

ระยะห่างการเรียกใช้งาน

ระยะห่างการใช้งานเป็นระยะห่างที่สวิตช์ต้องใช้ในการปล่อยการกดเพื่อให้ตรวจจับอินพุตได้ ซึ่งวัดระยะห่างจากด้านบนของคีย์แคป ค่าเฉลี่ยสำหรับคีย์บอร์ดแมคคานิคอลส่วนใหญ่คือ 2 มม. แต่ก็มีบางรุ่นที่ระยะห่างน้อยกว่า 1 มม.

การมีระยะห่างการเรียกใช้งานที่สั้นไม่ได้ทำให้คุณเป็นเกมเมอร์ที่เก่งกาจมากขึ้น กลับกันคุณอาจจะกดผิดมากกว่าเดิมด้วย เพราะมีสัมผัสที่เบากว่า

การสัมผัส

การสัมผัสหมายถึงการตอบสนองและแรงต้านที่คุณรู้สึกเมื่อพิมพ์ ซึ่งสัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของปุ่มขณะทำการกดปุ่ม การตอบสนองจะได้ยินเป็นเสียงคลิก รวมถึงเห็นได้ด้วยตาเมื่อคุณใช้นิ้วกดลงไปบนปุ่ม ซึ่งจะเด้งปุ่มกลับขึ้นมา

คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมักจะมีสัมผัสที่มากกว่า ในทางกลับกันคีย์บอร์ดเมมเบรนหลายรุ่นไม่ให้สัมผัสและรู้สึกนุ่มมือจากการใช้งานและการสึกหรอซึ่งเป็นเพราะการออกแบบของคีย์บอร์ด แม้ว่าคีย์บอร์ดเมมเบรนสามารถปรับแต่งให้มีสัมผัสได้บ้าง แต่ก็ยังขาดสัมผัสสู้มือของปุ่มแบบที่คีย์บอร์ดแมคคานิคอลหรือคีย์บอร์ดสวิตช์แบบกรรไกร

ระดับเสียงรบกวน

ระดับเสียงและเสียงรบกวนของคีย์บอร์ดอาจเป็นเรื่องสำคัญได้ตามรูปแบบการใช้งานของคุณหรือเกมที่เล่น และสถานที่ที่คุณเล่น คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีเสียงดังกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่นๆ เพราะมีเสียงคลิกทั้งตอนเริ่มและหลังกดปุ่ม

ส่วนคีย์บอร์ดเมมเบรนมีเสียงเงียบที่สุด เพราะใช้ยางหรือซิลิโคนที่กันกระแทกซึ่งคีย์บอร์ดแมคคานิคอลไม่มี ปุ่มเมมเบรนสวิตช์แบบกรรไกรมีเสียงที่ดังกว่าปุ่มเมมเบรนทั่วไป เนื่องจากมียางที่กันกระแทกน้อยกว่า

ความทนทาน/อายุการใช้งาน

การวัดความทนทานนั้นพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนการกดปุ่มของคีย์บอร์ดแมคคานิคอลที่กดได้ตลอดอายุการใช้งาน ให้คำนวณจากการกดปุ่มต่อชั่วโมง (KPH) เฉลี่ยประมาณ 8,000 KPH และจากนั้นคูณค่านี้ตามปริมาณชั่วโมงที่เกมเมอร์มักจะเล่นตลอดระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณก็จะเห็นได้ว่าตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

คีย์บอร์ดแมคคานิคอลทนทานมากกว่าแบบเมมเบรนหรือคีย์บอร์ดปุ่มยาง เช่น สวิตช์ Cherry MX มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้สูง 20 ถึง 50 ล้านครั้ง โดยขึ้นอยู่กับประเภทของสวิตช์ [2]

เช่น คีย์บอร์ด HP OMEN Sequencer Mechanical Keyboard มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้ 70 ล้านครั้ง คีย์บอร์ดเมมเบรน/ปุ่มยาง โดยเฉลี่ยแล้ว มีอายุการใช้งานกดปุ่มได้ประมาณ 5 ล้านครั้ง

ค่าใช้จ่าย

คีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีราคาตั้งแต่ 60 ดอลลาร์ขึ้นไปจนถึง 200 ดอลลาร์ และถ้าคุณโอเคกับรุ่นเก่าๆ หน่อย ราคาก็จะถูกลงไปอีก นอกจากนี้ราคาระหว่างแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและแบรนด์ทั่วไป รวมไปถึงคีย์บอร์ดขนาดใหญ่และมีหรือไม่มีไฟก็มีราคาต่างกันด้วย

ข้อดีและข้อเสียของคีย์บอร์ดแมคคานิคอล

ข้อดีและข้อเสียบางประการของคีย์บอร์ดแมคคานิคอลมีดังนี้

ข้อดี

  • มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าคีย์บอร์ดเมมเบรน
  • พิมพ์ได้เร็วและง่ายกว่า
  • ตอบสนองกับการกดปุ่มได้ดีกว่า
  • ให้สัมผัสตอบรับเมื่อพิมพ์ได้ดีกว่า
  • แม่นยำมากกว่า
  • ใช้งานสบายกว่า

ข้อเสีย

  • ราคาแพงกว่าคีย์บอร์ดเมมเบรนหรือปุ่มยาง
  • หนักกว่าคีย์บอร์ดเมมเบรน
  • เสียงดังกว่าคีย์บอร์ดเมมเบรน
  • ทำความสะอาดยากกว่าเนื่องจากปุ่มสูงกว่าและมีช่องว่างกว้างกว่า
  • เสียหายจากเศษอาหารและของเหลวได้ง่ายกว่า
  • มีหลากหลายแบบให้เลือก ดังนั้นการเลือกสักอันอาจจะเป็นการตัดสินใจยาก

[[1] Deskthority.net; Cherry MX Switches

[2] CherryAmericas.com; สวิตช์ Cherry MX Series 2